สำหรับสำนักงาน หรือบริษัท เอกสารนับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทขึ้น หรือบริษัทหลาย ๆ ที่เลือกที่จะหันไปใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น แต่ก็จะมีเอกสารบางอย่างที่ยังจำเป็นจะต้อง Print ใส่กระดาษ โดยเฉพาะเอกสารที่มีความสำคัญทางกฎหมาย และไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ใช้ในการทำงาน หรือพวกสำเนาต่าง ๆ เมื่อเอกสารเหล่านั้นไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมาย ก็จำเป็นจะต้องทำลายเอกสารเหล่านั้น เพื่อป้องกันการถูกแอบนำเอกสารไปใช้งานต่อหรือ ถูกนำไปโจรกรรมข้อมูลของบริษัท ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดนั่นก็คือการใช้ เครื่องย่อยกระดาษ ซึ่งอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่สำนักงานควรจะต้องมีติดไว้สำหรับการป้องกันความลับของบริษัท และลดปริมาณเอกสารที่ไม่ได้ใช้งาน อย่าคิดว่าการทำลายเอกสารเป็นเรื่องไม่สำคัญ หากไม่อยากให้ความลับรั่วไหล ควรป้องกันไว้ก่อน
หัวข้อสารบัญบทความ
ดังนั้นวันนี้ Born Reviews จะมาแนะนำวิธีในการเลือกเครื่องย่อยกระดาษ หรือเครื่องทำลายเอกสาร ว่าควรจะเลือกรูปแบบไหน ขนาดเท่าไรให้เหมาะสม และคุ้มค่า ถ้าไม่พลาดต้องอ่านบทความนี้เลย!
มารู้จักประเภทของ เครื่องย่อยกระดาษ กันดีกว่า ?
ในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ ตาม ‘ขนาดของเครื่อง‘ ซึ่งขนาดประเภทของเครื่องนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะต้องเลือกให้ถูกต้อง มาดูกันดีกว่าประเภทของแต่ละเครื่อง แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
- เครื่องย่อยกระดาษขนาดเล็ก เป็นขนาดที่สามารถพกพาได้ ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งเหมาะกับการกำจัดเอกสารในปริมาณน้อยๆ เพราะจะมีจำนวนของเอกสารที่สามารถย่อยได้ภายในครั้งเดียว และมีข้อจำกัดเรื่องของตัวถังในการบรรจุกระดาษที่ย่อยแล้ว เหมาะสำหรับเอกสารเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงพวกซองจดหมายต่างๆ เท่านั้น แต่จะไม่สามารถย่อยอะไรที่แข็งมากนักได้
- เครื่องย่อยกระดาษขนาดใหญ่ เป็นจะมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เหมือนเครื่องขนาดเล็ก ยกเว้นบางรุ่นที่จะมีล้อเลื่อน ที่ทำให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้กำจัดเอกสารปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว และยังสามารถทำลายพวกบัตร , แผ่นซีดี (CD) และแผ่นดีวีดี (DVD) ได้อีกด้วย
นอกจากขนาดของเครื่องแล้ว ก็ยังสามารถแบ่งได้จาก ‘ประเภทของการย่อย‘ ได้ 2 แบบ ได้แก่ แบบมือหมุน และแบบย่อยอัตโนมัติ
- แบบมือหมุน เป็นเครื่องแบบที่ไม่ใช้ไฟฟ้าในการย่อย แต่จะใช้ที่หมุนมือในการย่อย โดยจะต้องหมุนไปเรื่อย ๆ จนกว่ากระดาษจะย่อยจนหมด เป็นเครื่องที่ไม่สามารถทำลายเอกสารทีละมากๆ ได้ ส่วนใหญ่จะเน้นย่อยเอกสารเล็กๆ น้อยๆ และไม่สามารถย่อยอะไรที่แข็งได้ เช่น พวกบัตร หรือแผ่นซีดี
- แบบอัตโนมัติ เป็นเครื่องที่จะใช้ไฟฟ้าในการย่อย ทำให้สามารถย่อยกระดาษได้ปริมาณมาก ย่อยได้เร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องมาหมุนมือเหมือนกับเครื่องย่อยแบบมือหมุน นอกจากนั้นยังสามารถย่อยเอกสารประเภทอื่นๆ เช่น แผ่นซีดี หรือพวกบัตรที่แข็งๆ ได้
นอกจากนั้นเครื่องแต่ละรูปแบบ ก็จะมีรูปแบบการย่อยที่แตกต่างกัน บางแบบก็จะตัดกระดาษตรงๆ ทำให้เห็นตัวหนังสือบางแต่ก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลได้ บางแบบก็จะตัดละเอียดจนไม่เห็นตัวอักษร เป็นต้น
How to เลือกซื้อ เครื่องย่อยกระดาษ ใหม่อย่างไรให้คุ้มค่าและตอบโจทย์!
เมื่อคุณรู้จักประเภทของเครื่องกันไปแล้ว หลายคนก็อาจจะเกิดความลังเลว่าจะเลือกแบบไหนดี จะเลือกเครื่องเล็กๆ ดีไหม หรือจะเลือกเครื่องใหญ่ไปเลย สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้ออยู่ ต้องไม่พลาดเคล็ด(ไม่)ลับ วิธีเลือกซื้อเครื่องย่อยกระดาษให้ตอบโจทย์การใช้งาน ที่เราเอามาฝาก มาดูกันดีกว่าว่าควรจะเลือกอย่างไร
- เลือกจากจำนวนของเอกสารที่ต้องการทำลาย ปัจจัยหลัก ๆ ในการเลือกเครื่องย่อยเอกสาร นั้นจะต้องคำนึงจากปริมาณของเอกสารที่จะย่อย หากบริษัทของคุณมีความจำเป็นที่จะต้องย่อยเอกสารจำนวนมากในแต่ละครั้งแล้ว การเลือกเครื่องย่อยขนาดใหญ่ก็จะตอบโจทย์การย่อยที่ทำได้รวดเร็วกว่า และยังสามารถย่อยกระดาษได้หลายแผ่นในครั้งเดียว แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้ย่อยเอกสารมากนัก เครื่องขนาดเล็ก ก็จะตอบโจทย์มากกว่า
- เลือกจากการนำเครื่องย่อยเอกสารไปใช้งาน สำหรับใครที่ต้องการเครื่องที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เครื่องขนาดเล็กจะตอบโจทย์การเคลื่อนย้ายได้มากกว่า ส่วนถ้าต้องการนำไปใช้งานนอกสถานที่ แนะนำให้เลือกเครื่องย่อยแบบมือหมุน ที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าก็สามารถย่อยกระดาษได้
- เลือกจากรูปแบบของเครื่องที่ต้องการ เนื่องจากรูปแบบการย่อยกระดาษมีด้วยกันหลายรูปแบบ หากต้องการแบบละเอียดแนะนำให้เลือกเครื่องขนาดใหญ่ ที่มีการย่อยหลายรูปแบบ และสามารถย่อยได้ละเอียด หรือถ้าใครที่อยากได้เครื่องย่อยที่ใช้สำหรับย่อยทั่วไปเครื่องย่อยขนาดเล็กก็นับว่าตอบโจทย์เหมือนกัน
- เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน สำหรับใครที่ไม่อยากใช้การย่อยแบบมือหมุน การเลือกเครื่องย่อยแบบอัตโนมัตินับว่าตอบโจทย์ เพราะสามารถย่อยกระดาษได้ง่าย และรวดเร็ว แค่เสียบปลั๊กก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องหมุนมือให้เหนื่อย และมีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกหลากหลายมากกว่า ยิ่งเป็นเครื่องขนาดใหญ่ก็จะสามารถย่อยกระดาษได้รวดเร็ว และทำงานได้เงียบมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครไม่ได้เน้นฟังก์ชันมากนัก แบบมือหมุนก็สามารถย่อยเอกสารได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่สะดวกสบายมากนัก
นอกจากจะต้องดูงรูปแบบการใช้งานให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ก็จะต้องดูเรื่องของประกันต่างๆ ด้วย ยิ่งถ้าเป็นเครื่องอัตโนมัติ หรือเครื่องขนาดใหญ่ ต้องดูเรื่องการรับประกันให้ดี เพราะแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะมีใบมีด ความจุ หรือรูปแบบที่ต่างกัน ดังนั้นต้องดูให้ดีว่ามีการรับประกันอะไรบ้าง
ฟังก์ชันของเครื่องย่อยกระดาษมีอะไรบ้าง ?
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการเลือกซื้อนั่นก็คือ ฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งถือว่าสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากการทำลายเอกสาร ที่ถือว่าเป็นฟังก์ชันหลักของเครื่องแล้ว การมีฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติม จะช่วยทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
หากเป็นเครื่องย่อยแบบมือหมุน มักจะไม่มีฟังก์ชันการใช้งานมากนัก ซึ่งต่างจากเครื่องแบบอัตโนมัติที่จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น
- ฟังก์ชันลดเสียงรบกวนขณะทำงาน ทำให้เวลาทำงานเสียงจะไม่ดังจนรบกวนการทำงาน
- ฟังก์ชันตัดไฟอัตโนมัติ ที่จะทำงานเมื่อเครื่องร้อนจนเกินไป เพื่อเป็นการพักตัวเครื่องไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป และจะหยุดการทำงานเมื่อตัวเครื่องปิดไม่สนิท รวมถึงเวลาเคลื่อนย้าย
- ฟังก์ชันถอยหลัง จะทำงานเมื่อกระดาษติด เพื่อเป็นการป้องกันตัวเครื่องให้ใช้งานได้ยาวนาน และไม่เกิดอันตรายเวลาที่ใช้งาน
- ฟังก์ชันฟีดกระดาษอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันที่จะช่วยในการทำให้ประหยัดเวลาในการใส่กระดาษเข้าไป ซึ่งเวลาที่ย่อยกระดาษแผ่นแรกหมด แผ่นต่อไปก็จะถูกดึงเข้าไปย่อยเอง ไม่ต้องรอใส่กระดาษเข้าไปทีละแผ่น
ฟังก์ชันเหล่านี้เป็นฟังก์ชันพื้นฐาน ที่ถือว่าช่วยตอบโจทย์การใช้งานทำให้ใช้งานได้ง่าย หากบริษัทของคุณเป็นบริษัทตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ เวลาจะย่อย หรือกำจัดเอกสารทีละเยอะ หากใช้ฟังก์ชันเหล่านี้ จะช่วยในการประหยัดเวลา และยังเป็นการช่วยถนอมตัวเครื่องให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของ เครื่องย่อยกระดาษ ที่บริษัทควรต้องมี!
บางคนมักจะมองเครื่องทำลายเอกสารมีไว้สำหรับย่อยกระดาษเท่านั้น ซึ่งหลายบริษัทคิดว่าการใช้เครื่องย่อยไม่จำเป็น เพราะสามารถใช้การตัด หรือฉีกได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการที่จะมานั่งฉีกกระดาษทีละแผ่น อาจจะใช้เวลานาน อีกทั้งยังอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาด จนทำให้ข้อมูลบางอย่างรั่วไหลไปได้ ดังนั้นการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการทำงานจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการกำจัดเอกสาร เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการกำจัดเอกสาร รวมถึงยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกด้วย
- ช่วยในการลดปริมาณของเอกสารที่ไม่จำเป็น เพราะว่าเอกสารบางอย่างหากไม่ได้ใช้งาน เก็บไว้ก็มีแต่เป็นการเพิ่มปริมาณเอกสารที่ไม่จำเป็นเสียเปล่า ดังนั้นเพื่อลดปริมาณของเอกสารเหล่านั้น การย่อยเอกสารที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มากต่อคนที่ทำเกี่ยวกับเอกสาร ยิ่งเอกสารน้อยลงยิ่งทำให้การทำงานง่ายมากยิ่งขึ้น
- ช่วยในการป้องกันข้อมูลรั่วไหล ปกติเอกสารก็จะมีความสำคัญอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเอกสารที่สำคัญ อย่างสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านด้วยแล้ว ยิ่งเป็นข้อมูลที่เกิดความผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันความลับของบุคคลนั้นๆ รวมถึงความลับของบริษัท การใช้เครื่องจะช่วยในการป้องกันข้อมูลได้ดีมากกว่าการกำจัดด้วยมือ เพราะการย่อยกระดาษสามารถทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับหัวตัดของเครื่องยิ่งเครื่องขนาดใหญ่ยิ่งสามารถย่อยกระดาษได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
- ช่วยในการเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร เอกสารบางอย่างหากปล่อยเอาไว้ก็จะทำให้พื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารน้อยลง โดยปกติแล้วเอกสารมักจะมีอายุประมาณ 5 ปี ส่วนใหญ่หากเอกสารมีอายุเกินกว่านั้น หากไม่ทำการกำจัดเอกสาร ก็จะทำให้เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ เพราะเมื่ออายุของเอกสารเกินกว่าที่กำหนด เอกสารเหล่านั้นจะไม่สามารถนำไปใช้งานได้ งานเอกสารเป็นงานที่ควรจะต้องจัดให้เป็นระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการหา และนำมาใช้ ดังนั้นการย่อยกระดาษ หรือเอกสารบางอย่างไป เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารใหม่ จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยทำให้บริษัท หรือสำนักงานเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณสำหรับใช้จัดเก็บเอกสารอีกด้วย
เครื่องย่อยกระดาษ ยี่ห้อไหนดี ให้มีติดบริษัทไว้แล้วคุ้มค่า!

เครื่องย่อยกระดาษ มือหมุน S-2290
ช่วงราคา
250 - 500฿

OFFICE PLUS No.606S
ช่วงราคา
500 - 600฿

Deli รุ่น E9939 & 9928
ช่วงราคา
2,000 - 3,700฿

Deli รุ่น E9952 & 27530
ช่วงราคา
4,000 - 5,000฿
ถ้าคุณไม่อยากพลาดข้อมูล และสินค้าดีๆ ที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ต้องไปติดตาม Born Reviews และอ่านบทความอื่นๆ ที่เราขนเอาสาระ และข้อมูลดีๆ มาฝาก แล้วพบกันบทความหน้านะ !
สามารถกดติดตาม Born Reviews ได้ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
Facebook : BornReviews